(ตัวอย่างจดหมายขอสนับสนุนทุนผลิตสื่อในโครงการท่อน้ำเลี้ยงเพื่อสื่อน้ำดี)

ตุลาคม 2564

เรื่อง

ขอสนับสนุนทุนการผลิตสื่อ “ทุกข์ซ้ำคนทำประกันโควิด”

เรียน

ผู้จัดการโครงการท่อน้ำเลี้ยงเพื่อสื่อน้ำดี

                          เนื่องด้วยสถานการณ์โควิด-19 ระบาดหนักในพื้นที่ประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพฯ และจังหวัดเคียง รวมเป็น 29 จังหวัดสีแดงเข้ม ที่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และออกมาตรการหลากหลายกิจกรรมด้วยกัน มาตั้งแต่ต้นปี 2564เรื่อยมาจนถึงเดือนเม.ย.64 จนมีตัวเลขสูงเป็นปรากฎการณ์จากหลักสิบ เป็นหลักร้อย เป็นหลักพัน และหลักหมื่น ณ ปัจจุบันนี้ ( ตุลาคม 2564) ซึ่งทำให้ประชาชนทั้งประเทศแตกตื่นและตกใจกับสถานการณ์ที่การแพร่ระบาดไม่มีทางทีจะหมดสิ้นหรือทุเลาลงไป สร้างความเดือดร้อนทั้งเรื่องการทำงาน ความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตประจำวัน

                          ดังนั้นประชาชนส่วนหนึ่ง จึงต้องการหาหลักประกันที่เชื่อว่าจะสามารถทำให้ชีวิตนั้นเดินหน้าต่อไปได้ควบคู่กับการดูแลด้วยระบบสาธารณสุขจากภาครัฐ และได้รับการเยียวยาหากเคราะห์ร้ายติดเชื้อโควิด-19 นั่นก็คือ การซื้อประกันโควิดจากบริษัทประกันภัยต่างๆ เนื่องจากการซื้อประกันในราคาหลักร้อย หรือพันต้นๆเท่านั้น แต่มีการตอบแทนให้กับผู้เอาประกันหากติดโควิดได้รับเงินชดเชยตั้งแต่ 5 หมื่นขึ้นไปจนถึงหลักหลายแสนบาททีเดียว ซึ่งทำให้ประชาชนซื้อประกันโควิด-19 ของบริษัทต่างๆหลายล้านกรมธรรม์มีเงินสะพัดหลายหมื่นล้านบาทอย่างรวดเร็ว

                          แต่ทว่าเหตุการณ์แพร่ระบาดรวดเร็วและรุนแรงมากยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนติดเชื้อโควิดมากขึ้นและมีการเข้าระบบการรักษาจนหายป่วยแล้วก็ได้มายื่นขอเงินชดเชยจากบริษัทประกันภัย แต่กลับพบว่าบริษัทบางแห่งไม่สามารถให้บริการจ่ายเงินชดเชยได้ตามที่ตกลงไว้รวมถึงบางแห่งจ่ายล่าช้า และประวิงเวลา เกิดความไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภค ซึ่งทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) พยายามเข้ามาช่วยเหลือหาทางออกในเรื่องดังกล่าวแต่ความเดือดร้อนและไม่เป็นธรรมไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบทำให้ประชาชนยังกังวลใจเรื่องดังกล่าวและสงสัยถึงพฤติกรรมการประกอบธุรกิจประกันภัยโควิด-19 ว่ามีความโปร่งใส เป็นธรรมกับผู้บริโภคหรือไม่

                         “ทีมรับทุกข์ร้อน” เป็นสื่อมวลชนกลุ่มหนึ่งที่มองเห็นปัญหาดังกล่าวว่าบริษัทประกันภัย ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใสหรือไม่ อย่างไร และบทบาทของ คปภ. ต่อปัญหาดังกล่าวมีการจริงใจมากน้อยเพียงใดที่จะดำเนินการแก้ปัญหารวมถึงสร้างระบบที่ดี รัดกุมไม่ให้บริษัทประกันภัยเอาเปรียบผู้บริโภค แต่ในองค์กรสื่อหลักนั้นไม่สามารถนำเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมาได้ชัดเจน เนื่องจากกลุ่มธุรกิจประกันภัย เป็นนายทุน ผู้สนับสนุนค่าโฆษณาแก่องค์กรสื่อ หากนำเสนอข่าวเชิงลบไปอาจจะมีผลต่อรายได้หลักขององค์กรสื่อ

                          ทาง “ทีมรับทุกข์ร้อน” จึงจำเป็นต้องหาทุนจากกลุ่มอื่นๆเพื่อสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำสกู๊ปข่าวเพื่อนำเสนอในสื่อออนไลน์ให้ผู้บริโภครับทราบและบริษัทประกันภัย คปภ.รับการทำงานที่สอดรับกับปัญหาต่อไป โดยสกู๊ปข่าวที่ต้องการนำเสนอนั้น จะมีความยาว 2-3 นาที และทุนที่ต้องการขอสนับสนุนนั้น อยู่ที่งบประมาณ 10,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ.

 

                                                                                                                                                                                                                                        “ทีมรับทุกข์ร้อน”